คุณจะออกเดินทางจาก ดูสิลดอร์ฟ เฮาน์บอร์ฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ดัสเซลดอร์ฟ และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เอสเซิน เฮาน์บอร์ฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ Essen.
คุณจะออกเดินทางจาก ดูสิลดอร์ฟ เฮาน์บอร์ฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกลางใจกลางเมือง ดัสเซลดอร์ฟ และสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเส้นทางในขณะที่คุณมาถึงที่ เอสเซิน เฮาน์บอร์ฟ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของ Essen.
How long does the train from Düsseldorf to Essen take?
The average time the train takes to travel from Düsseldorf to Essen is approximately 27 minutes depending on the time of day and on the type of train.
What is the fastest journey from Düsseldorf to Essen by train?
The fastest journey from Düsseldorf to Essen by train is the Intercity Express (ICE). This train takes about 23 minutes to reach the destination.
How much does the train cost from Düsseldorf to Essen?
The price for a single ticket traveling from Düsseldorf to Essen is around €8.00. Prices can vary depending on the train type and if you are eligible for any discounts.
How much does the Düsseldorf to Essen?
Yes, there is a direct train from Düsseldorf to Essen, which is the Intercity Express (ICE).
What is the distance from Düsseldorf to Essen by train?
The distance between Düsseldorf and Essen is approximately 25 Kilometers.
Which are the cities that the train stops from Düsseldorf to Essen?
The cities that the train stops while traveling from Düsseldorf to Essen are Duisburg, Mülheim an der Ruhr, Oberhausen, and Essen.
ดัสเซลดอร์ฟ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังของสถาปัตยกรรมทันสมัยและเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเยอรมนี
Altstadt (Old Town)
เป็นหัวใจของเมือง และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ห้องนั่งเล่นที่ยาวที่สุดในโลก" พื้นที่นี้เต็มไปด้วยบาร์ ร้านอาหาร และร้านค้า นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ Kunstpalast ที่มีผลงานศิลปะจากหลายยุคหลายสมัยที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม
Rheinturm
หอคอยที่สูงที่สุดในเมือง มีความสูง 240.5 เมตร บนยอดหอมีจุดชมวิวและร้านอาหาร ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองและแม่น้ำไรน์ได้อย่างงดงาม
Königsallee
ถนนช้อปปิ้งที่หรูหราที่สุดของเยอรมนี เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม คาเฟ่ และห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียม สถานที่นี้ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับช้อปปิ้งเท่านั้น แต่ยังเป็นที่สำหรับถ่ายภาพที่สวยงามด้วย
Schloss Benrath
พระราชวังสไตล์บารอค ที่สวยงาม ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางสวนที่กว้างขวาง นอกจากจะเป็นที่ชมสถาปัตยกรรมที่งดงามแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะภายในพระราชวังด้วย
St. Lambertus Church
เป็นโบสถ์ที่มีเอกลักษณ์ ด้วยหอคอยที่บิดเบี้ยว โบสถ์แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาด เนื่องจากมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
MedienHafen
ย่านท่าเรือเก่าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานที่ทันสมัยและอาคารที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลก เป็นที่ยอดนิยมในการเดินเล่นและถ่ายภาพ
Neanderthal Museum
พิพิธภัณฑ์ที่มุ่งเน้นแสดงเกี่ยวกับมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล และประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ค้นพบโครงกระดูกนีแอนเดอร์ทัลครั้งแรก สถานที่นี้มีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์
การเดินทางรอบ ดัสเซลดอร์ฟ นั้นสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ทั้งรถไฟ รถราง และรถประจำทาง ทำให้การเดินทางไปยังสถานที่ต่าไปโดยไม่ต้องเสียเวลามาก นอกจากนี้ยังสามารถสัมผัสกับอาหารพื้นเมืองที่หลากหลายอย่างเช่น Altbier ซึ่งเป็นเบียร์ดั้งเดิมของเมืองและเมนู Rhineland ที่เลื่องชื่อ ที่ร้านอาหารท้องถิ่น
Essen, the city of culture and nightlife located in North Rhine-Westphalia, in Germany, is a great destination for travelers who are looking for a cultural getaway. With its lush parks and extensive architecture, it’s no wonder that Germany's fourth-largest city is recognized as a UNESCO World Heritage Site.
To make the most of your visit, here is a list of the top 7 places to visit and things to eat in Essen.
Essen Cathedral: An impressive example of Gothic Revival architecture, this majestic church is situated in the northern part of the city. Built in the 13th century and dedicated to St. Ludger, it houses a choral museum and the graves of the former prince-bishops of Essen. Visitors can get a guided tour of the cathedral and marvel at the collection of amazing artwork. Moreover, the entrance is free.
Zollverein Coal Mine Industrial Complex: This is one of the most significant cultural landmarks in the world and a must-visit for any traveler. It’s a UNESCO World Heritage Site and the only surviving coal mine in Germany. It offers visitors insight into the coal industry and its development, along with the region's history and culture. Guided tours of the mines and a visual arts center are also available.
Ruhr Museum: This museum is dedicated to the cultural history of the Ruhr region. Located in the Villa Hügel, a stunning historic building, it offers an in-depth look into the city’s history. It contains more than 5,000 artefacts, all from industrial heritage. Admission is free, however, it can take more than four hours to fully explore.
Grugapark: This public park is a verdant oasis in the heart of the city. It features delightful gardens, an open-air theater, and a permanent collection of art. It’s often described as one of the best parks in Essen and a great place to relax and unwind. Additionally, there are plenty of food stands, and you can take your pick from the many tasty treats.
Old Synagogue: Situated in the city centre, it’s the only surviving Jewish place of worship in Essen. It was built in the 19th century and is an important reminder of the city’s Jewish community. Admission is free, and there are also guided tours available.
Essen Food: As a food paradise, you can’t miss out on the local cuisine. Essen's culinary culture is rich and varied, and there are plenty of restaurants to choose from. Popular dishes include “Ruhrpott”, a potato dish with bacon, onions and mushrooms, and “Rheinischer Sauerbraten”, which is a traditional beef dish. Moreover, don’t forget to stop by the Stammhaus, where you can try the classic Kottenburger beer.
Haus der Technik: Also known as the House of Technology, it’s located in the city centre. It’s home to the world’s first permanent exhibition devoted to technology and is also an important cultural centre. It features a wide range of interactive displays, simulators, and multimedia shows.
Essen is a great place to explore and is full of amazing attractions. From churches to food, there is something for everyone. So, why not plan your next vacation to Essen and explore the city for yourself?
ในเมืองดัสเซลดอร์ฟของเยอรมนีมีสถานีรถไฟหลักที่ใหญ่และสำคัญซึ่งคือสถานีรถไฟดัสเซลดอร์ฟเซ็นทรัล (Düsseldorf Hauptbahnhof) นอกจากนี้ยังมีสถานีรถไฟขนาดเล็กที่ให้บริการรถไฟภายในเมืองและรถไฟท้องถิ่นอีกหลายแห่ง เช่น สถานีรถไฟดัสเซลดอร์ฟ-เบนราธ (Düsseldorf-Benrath) และสถานีรถไฟดัสเซลดอร์ฟ-เดอร์เรนดอร์ฟ (Düsseldorf-Derendorf) ซึ่งทำให้การเดินทางภายในเมืองและไปยังเมืองใกล้เคียงสะดวกสบายยิ่งขศาน.
สถานีสถานีรถไฟดัสเซลดอร์ฟเซ็นทรัลตั้งอยู่ที่ Konrad-Adenauer-Platz 1, 40210 Düsseldorf, เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 04:30 น. จนถึง 00:30 น. ที่สถานีนี้มีบริการเก็บกระเป๋า ทำให้ผู้ที่ต้องการเดินทางต่อหรือมาเยือนเมืองเพื่อท่องเที่ยวสามารถฝากสัมภาระไว้ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีบริการต่างๆ เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร และจุดบริการข้อมูลท่องเที่ยวเพื่อความสะดวกสบายของผู้เดินทาง.
Essen is the largest city in North Rhine-Westphalia, in Germany, and its main train station is called Essen Hauptbahnhof. This station is one of the biggest in the country and operates hundreds of national and international trains. Additionally, there are many other stations around the city, such as Essen South, Steele and Essen West, which are smaller but no less important. These stations offer regional services, as well as connections to other cities like Duisburg, Dortmund and Oberhausen, making travel across the state very efficient.
The address of Essen Hauptbahnhof is Berliner Platz 1, 45127 Essen, Germany. Its opening hours are Monday to Friday from 5:00 am to 1:00 am, and weekends and public holidays from 5:00 am to 11:00 pm. To contact the station, you can call +49 1806996633. It also offers a luggage storage service and several shops to buy food and drinks.
จองล่วงหน้า:
เช่นเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบิน ราคาตั๋วรถไฟมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันเดินทาง การจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนสามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้มาก
เดินทางในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยมีคนใช้บริการ:
หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาที่มีคนใช้บริการมาก เช่น เช้าวันธรรมดาและช่วงเย็น เลือกเดินทางในช่วงกลางวัน ช่วงเย็น หรือช่วงกลางสัปดาห์เมื่อมีความต้องการน้อยกว่า
พิจารณารถไฟที่ช้าลงหรือเส้นทางที่ไม่วิ่งตรง:
รถไฟด่วนหรือรถไฟความเร็วสูงอาจประหยัดเวลา แต่ก็มักจะแพงกว่า การเลือกใช้บริการรถไฟท้องถิ่นหรือบริการที่ช้าลงสามารถลดค่าโดยสารได้
มองหาข้อเสนอพิเศษและโปรโมชั่น:
ผู้ประกอบการรถไฟบางครั้งมีโปรโมชั่นหรือข้อเสนอพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูที่ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว การสมัครรับจดหมายข่าวอาจคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีส่วนลดตั๋วกลุ่มหรือตั๋วไปกลับบางครั้ง ดังนั้นพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้หากเหมาะสมกับแผนการเดินทางของคุณ